ความเป็นมาและพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นหน่วยงานที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อมีหน้าที่ทำการศึกษา ค้นคว้า แล้วนำข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้านั้น ไปใช้ขยายผลในการพัฒนา โดยทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งกระจายอยู่ในพื้นที่ ต่างๆของประเทศรวม 6 ศูนย์คือ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองจังหวัดนราธิวาส, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนจังหวัดฉะเชิงเทรา, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานจังหวัดสกลนคร, ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้จังหวัดเชียงใหม่,ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายจังหวัดเพชรบุรีและศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนจังหวัดจันทบุรี โดยศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง เป็นศูนย์ที่ทรงมีพระราชดำริ ให้ตั้งขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2525 ทั้งนี้ทรงมีพระราชประสงค์ในเบื้องต้นเพื่อให้ทำการศึกษา ค้นคว้า การแก้ปัญหาดินเปรี้ยวที่เกษตรกรทำนาได้ผลไม่คุ้มค่า ซึ่งข้อเท็จจริงการแก้ปัญหาเรื่องดินนั้น ต้องทำควบคู่กันไปในหลายด้านคือด้านป่าไม้ แหล่งน้ำ และ อื่นๆด้วย ต่อมาเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลจึงมีรูปแบบการทำงานที่ผสมผสานการทำงานของหน่วยงานด้านอื่นๆด้วย ซึ่งปัจจุบันมีส่วนราชการเข้าร่วมดำเนินงานประมาณ 30 หน่วยงาน สำหรับงานป่าไม้ เป็นงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการดำเนินการศึกษา ค้นคว้าและจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่โครงการให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าพรุ(peatswampforest) ที่มีน้ำจืดท่วมขังอยู่เกือบทั้งปี มีเนื้อที่ประมาณ193,559 ไร่ ซึ่งสามารถจำแนกพื้นที่พรุของจังหวัดนราธิวาสโดยอาศัยข้อมูลสภาพของพรรณไม้และสภาพของดินในพื้นที่พรุออกเป็น 3 เขตคือ เขตสงวน (preservation zone) เขตอนุรักษ์(conservationzone) เขตนี้เป็นเขตที่พบสังคมพืชอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมซึ่งเปลี่ยนสภาพมาจากป่าพรุดั้งเดิมที่ สมบูรณ์ถูกทำลายด้วยการระบายน้ำออกจากป่าพรุ และเกิดไฟป่าเผาไหม้10มีเนื้อที่ประมาณ 112,188ไร่ เขตพัฒนา(developmentzone) เขตนี้เป็นเขตที่ป่าพรุได้ถูกทำลายเปลี่ยนสภาพไปหมดแล้วส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทุ่งร้างไม่มี พรรณไม้ยืนต้นขึ้นอยู่สภาพของดินมีชั้นของดินอินทรีย์คงเหลืออยู่น้อยมากเขตนี้กำหนดให้ใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อการกสิกรรมหรือทำการปลูกป่าในลักษณะของสวนป่าเศรษฐกิจ ในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ปัจจุบันนี้ นั้น โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส เดิมเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ (เดิม) มีภารกิจหลักเป็นหน่วยงานศึกษา ค้นคว้า และวิจัยด้านป่าไม้ โดยเน้นงานวิจัยด้านป่าพรุ โดยเฉพาะด้านการปลูกและฟื้นฟูป่าพรุ ควบคู่กับด้านนิเวศวิทยาป่าไม้และอื่นๆ นอกจากนี้มีภารกิจเสริมอีกหลายกิจกรรมภายใต้แผนงานของโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดนราธิวาสเช่น การเพาะชำกล้าไม้แจกจ่ายฟรีแก่ประชาชนและหน่วยงานของรัฐ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แผ่นดิน จัดทำโครงการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพื่อสร้างจิตสำนึกให้นักเรียนมีใจอนุรักษ์การจัดสร้างแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้และอนุรักษ์พันธุ์ไม้ งานด้านส่งเสริมประชาสัมพันธ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ รวมถึงการช่วยดับไฟและป้องกันไฟป่าในป่าพรุ และที่สำคัญคืองานสนองงานพระราชดำริต่างๆของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงค์ ที่พระองค์ได้มีพระราชดำริหรืกระแสพระราชดำรัสต่างๆ ไว้เป็นต้น วัตถุประสงค์และเป้าหมาย 1.เพื่อสนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดใกล้เคียง 2.เพื่อศึกษา ค้นคว้า ทดลอง วิจัย และ สำรวจ หาข้อมูลเกี่ยวกับป่าไม้ในป่าพรุ และป่าอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ มาใช้ในการพัฒนาและส่ง เสริมให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนที่อยู่อาศัยรอบๆ ป่าพรุ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส 3.เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติป่าพรุพรุ และป่าอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ให้คงอยู่ตลอดไป 4.เพื่อสาธิตและเผยแพร่งานด้านการประโยชน์ไม้และของป่าพรุในป่าพรุพรุ และป่าอื่นๆในพื้นที่ภาคใต้ต่อสู่สาธารณชน 5.เพื่อผลิตกล้าไม้ แจกจ่ายสู่ราษฎร นำไปปลูกขยายผลในพื้นที่ของราษฎร ระยะเวลาดำเนินงานและผลการดำเนินงาน ในปีงบประมาณ 2550 นี้ สามารถดำเนินงานได้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายในแผนการปฏิบัติงานทุกประการ รวมทั้งได้ดำเนินงานในกิจกรรม อื่นเพื่อสนับสนุนแผนการดำเนินงานปกติอีกหลายกิจกรรม มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ เพาะชำกล้าไม้ทั่วไป เพาะชำกล้าไม้มีค่า งานศึกษาทดลองกลั่นน้ำมันหอมระเหยไม้เสม็ด งานศึกษาการใช้ประโยชน์ไม้เสม็ดขนาดเล็ก งานอำนวยการ และประสานการดำเนินงาน งานอื่น ๆ นอกเหนือจากแผนงานปกติ การเตรียมการรับเสด็จ จัดนิทรรศการต่าง ๆ 2.ร่วมจัดนิทรรศการในงานวันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ประจำปี 2550 ณ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี (สำนักงานป่าไม้ เขตปัตตานี เดิม) เมื่อวันที่ 17 – 18 มกราคม 2550 3.ร่วมกับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดนิทรรศการด้านธรรมชาติ และแจกกล้าไม้ ในงานกาชาด และงานประจำปีจังหวัดนราธิวาส ระหว่างวันที่ 26 เมษายน 2550 – 5 พฤษภาคม 2550 4.ร่วมจัดนิทรรศการในงานสมโภชศาลหลักเมือง และงานกาชาด จังหวัดยะลา เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ประจำปี พ.ศ. 2550 ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2550 5.ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส จัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานของโครงการฯ ผลการศึกษาวิจัย งานด้าน วิชาการป่าไม้ สาธิตการกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากใบเสม็ดขาว การใช้ประโยชน์จากไม้เสม็ด และแจกจ่ายกล้าไม้ฟรีแก่เด็กนักเรียน และ ประชาชนผู้เข้าชมที่บริเวณงานป่าไม้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง งาน “80 พรรษา ปวงประชาเป็นสุขศานต์” ระหว่างวันที่ 3 – 11 กันยายน 2550 6.ร่วมกับส่วนราชการในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดนิทรรศการด้านธรรมชาติ และแจกกล้าไม้ ในงานวันของดีเมืองนรา ระหว่างวันที่ 21 – 30 กันยายน 2550 งานด้านปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ 1.ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส จัดงาน “วันรณรงค์ปลูกหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ณ บ้านโคกอิฐ – โคกใน หมู่ที่ 2 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 3 สิงหาคม 2550 2.สนับสนุนกล้าไม้ และป้ายชื่อต้นไม้ เพื่อทรงปลูก แก่ส่วนราชการต่าง ๆ ที่ขอการสนับสนุนมา ที่อยู่ ประโยชน์ต่อประชาชน 1. ศึกษาหาแนวทางการปลูกและฟื้นฟูสภาพป่าพรุที่เสื่อมโทรม 2. เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ แหล่งเก็บเมล็ดพันธุ์ และ แหล่งค้นคว้าทางวิชาการป่าไม้ 3. ขยายผลงานการวิจัย ไปสาธิตขยายผล ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่น ที่เป็นสภาพป่าพรุ 4. ให้มีหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางของการวิจัย ค้นคว้า บริการ และถ่ายทอดความรู้ ด้านป่าพรุ สู่ประชาชนนักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ และ ผู้สนใจ 5. ดำเนินการศึกษาทดลองวิจัย การฟื้นฟูและบำรุงรักษาพื้นที่ป่าพรุ การสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ การส่งเสริมใช่ประโยชน์จากป่า และพันธุ์ไม้ป่าต่างๆ |